ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะสองสามวันนี้ ตลาด Crypto นั้นเรียกได้ว่า Bloodbath กันเลยทีเดียว
หลายคนอาจจะติดดอย หลายคนอาจเสียกำไรมากเลยทีเดียว
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คอยน์แมนจะลองวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบ และคำแนะนำนะครับ
เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในตลาด!?
ที่เห็นชัดเจนเลยคือมูลค่าของตลาดทั้งหมดนั้นตกลงมาถึง $75 billions จากที่ทำจุดสูงสุดที่ $115 billions
ในที่นี้ เราพูดถึงเงินประมาณ $40 billions หรือ 1.4ล้านล้านบาท หายไปในเวลาไม่กี่วัน
ที่น่าตกใจคือ ใน $40 billions ที่หายไปนั้น $30 billions นั้นมาจาก Altcoin ทั้งสิ้น
ซึ่งมีผลให้ แชร์ของบิทคอย์เริ่มตีกลับอีกครั้ง (จาก 37% กลับมาที่ 47%)
ดราม่า Bitcoin Hard Fork
คงได้ยินกันมาซักพักแล้วเกี่ยวกับการขัดแย้งกันระหว่างฝั่ง core developer (นักพัฒนา) กับฝั่ง miner (นักขุด)
อ่านรายละเอียดได้จากที่นี่
สรุปง่ายๆคือ
BIP91 (SegWit2x)
Activate SegWit ในวันที่ 25-29 เดือนนี้ (เริ่ม Signal วันที่ 21)
และจะมีการ activate ขยายขนาดบล็อกของบิทคอยน์ ภายใน 6เดือน (นี่คือส่วน 2x)
Miner จะเป็นคนส่งสัญญาณ และจะถูกนำมาใช้ถ้ากำลังขุดเกิน 80% สนับสนุน
BIP148
Activate BIP141 (SegWit) เช่นกัน โดยไม่มีการขยายบล็อกพ่วงมาด้วย
User จะเป็นคนอัพเดท Node ให้รับเฉพาะบล็อกที่รองรับ SegWit
แกมบังคับให้ miner มาใช้ SegWit ไม่งั้นจะขุดลม
แต่ถ้า Miner จำนวนมากยังไม่ยอม activate ตาม ก็จะทำให้เกิดบิทคอยน์ 2 เวอร์ชั่นขึ้นมาได้
ขณะเดียวกัน Jihan Wu เจ้าของ Bitmain ก็ได้กล่าวไว้ว่าถ้า BIP148 ผ่านและมีคนใช้จริงๆ
เขาก็อาจจะออกบิทคอยน์อีกเวอร์ชั่นของเขา ซึ่งเรียกว่า Bitcoin ABC อีกด้วย (กลายเป็น 3 บิทคอยน์ละ..)
ในเคสที่ BIP91 ได้ activate ไปแล้วด้วยดี จะไม่มีปัญหา Hard fork นี้ เพราะ miner ส่วนใหญ่ได้รองรับ SegWit แล้ว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ BIP91 ผ่าน ทำให้เราไม่มีปัญหา BIP148 อย่าลืมว่าตอนที่ BIP91 พยายามจะเพิ่มขนาดบล็อก (ภายใน6เดือน)
ก็ยังมีสิทธิที่ทาง User จะไม่รับการเปลี่ยงแปลง และทำให้เกิด Hard fork เป็น 2 เวอร์ชั่นได้อีก
ผลกระทบต่อตลาด
เราได้เห็นว่าเงินนั้นไหลออกจากตลาดมาก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องนี้
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีบิทคอยน์สองเวอร์ชั่น ราคาจะเป็นยังไง
สิ่งเหล่านี้ทำให้คนกลัว และดึงเงินออก
คนขาย Altcoin เพราะราคา Altcoin ยังยึดติดกับราคาบิทคอยน์อยู่มาก
ในทางทฤษฎีแล้ว Altcoin ไม่ควรมีผลต่อราคาบิทคอยน์
แต่เนื่องจากตลาดนี้ยังใหม่มาก คนไม่รู้ว่าจะใช้ Altcoin ตัวไหน hedge เวลาบิทคอยน์ราคาตก
หรือในขณะเดียวกัน Altcoin ส่วนมากยังต้องซื้อผ่านบิทคอยน์
จึงทำให้ผู้คนเลือกที่จะถอนเงินไปเป็นสกุลหลักเช่นดอลล่าก่อน และคอยดูว่าตลาดจะเป็นไงหลังจากสิ้นเดือนนี้
สถาบันการเงิน กองทุน และกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ถอยออกมาตั้งหลักก่อน
ถ้าคุณถือเงินของลูกค้าจำนวนมากในมือ แล้วจะมีเหตุการณ์ที่อันตรายและไม่แน่นอนแบบนี้เกิดขึ้น
ไม่แปลกที่คุณจะถอนเงินออกมาก่อน และค่อยเข้าเมื่อทุกอย่างลงตัว เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและกลุ่มนักลงทุน
ดีกว่าไปเสี่ยงแล้วต้องมานั่งอธิบายเงินที่หายไป เมื่อบิทคอยน์เกิดการแยกตัวขึ้นมาจริงๆ
คำแนะนำ
ถือต่อไป!?
ในความเห็นของผม Fundamental ของตลาดนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การที่เหรียญถูกเทขายมากในครั้งนี้เกิดจากที่คนตกใจกลัวกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดในสิ้นเดือนนี้มากกว่า
ตลาด Crypto นั้นยังถือว่าใหม่ คนส่วนมากทั่วไปยังเข้ามาไม่ถึงด้วยซ้ำ ซึ่งราคาที่ต่ำลง จะดึงดูดผู้เล่นใหม่เข้ามามากมาย
และอย่าลืมว่า คนที่ขายไป ไม่ได้เลิกเล่นตลาดนี้ แต่ขายไปเพื่อหวังจะซื้อตอนถูกกว่า หรือตอนที่ปลอดภัยกว่านี้ เช่นเดือนหน้า
ถ้าจะขายมีทางเลือกไหนบ้าง
บทเรียนครั้งนี้ทำให้เราเห็นว่า ถ้าเรารู้ว่าภายหน้าจะมีเหตุการณ์ที่จะทำให้ผู้คนแตกตื่นแบบนี้
เราอาจเลือกที่จะขายเหรียญบางส่วน ซึ่งในที่นี้ เราขายกลับมาเป็นเงินบาทได้
ถ้าเราเทรดอยู่บน Poloniex Bittrex แล้วไม่อยากโอนกลับให้ยุ่งยาก เราก็สามารถเทรดเป็น USDT บนนั้นได้เลย
ที่สำคัญที่สุดเวลาจะเลือกขายเหรียญ ให้คิดไว้เลยว่า เหรียญที่คนแค่ hype กัน และตัวโปรเจคไม่ได้ดีมาก
เหรียญประเภทนี้จะตกแรง และขึ้นกลับมาช้า เมื่อเทียบกับเหรียญที่ดี
(เวลานักลงทุนกลับเข้ามา ทุกคนจะมีสิทธิเลือกลงใหม่ และอาจไม่กลับไปซื้อเหรียญที่เคยซื้อไว้ก่อนหน้านั้น)
เราอาจเล่นเหรียญเหล่านี้ได้เวลาตลาดเป็นขาขึ้นหรือตลาดกระทิง
แต่ในตลาดหมีนั้น ถ้าจะขาย ขายเหรียญพวกนี้ก่อนเลย
โอกาสทองที่จะซื้อ?
ทยอยซื้อน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อย่า all in เพราะไม่มีใครรู้ว่าตรงไหนคือจุดต่ำสุด เราอาจจะเสียเอาเงินมาจมกับเหรียญๆนึงได้
ถึงแม้ว่าตลาดอาจจะเริ่มตีกลับ หรือนิ่งขึ้น
ถ้าหากจะซื้อ ก็อย่าลืมว่าความมเสี่ยงและความไม่แน่นอนยังมีอยู่จนถึงสิ้นเดือนนี้
ดังนั้น ราคาเหรียญมีสิทธิที่จะเหวี่ยงกลับไปต่ำกว่านี้ได้อีก
“อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนเทรดอย่างระมัดระวังนะครับ
อย่าลงเงินมากกว่าที่ตัวเองกล้าที่จะเสียได้นะครับ”
ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางคอยน์แมนเพจครับ
1 Comment
Comments are closed.