เพียงแค่อาทิตย์ที่ผ่านมา มูลค่าของ NEO ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า อยู่ที่ $1.6 billions และเข้ามาเป็นเหรียญมูลค่าอันดับ 8 ของตลาด Crypto
มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆุถึงมีคนให้ความสนใจกับเหรียญนี้
วันนี้คอยน์แมนจะมาพูดคร่าวๆถึงเรื่องต่อไปนี้นะครับ
- ความเป็นมา
- NEO และ GAS ต่างกันยังไง
- ขุดได้ไหม และ dBFT คืออะไร
- ทำไมถึงน่าลงทุน
ทำความรู้จักกับ NEO
NEO ไม่ใช่เหรียญใหม่แต่อย่างใด
NEO เป็นเหรีญที่ถือกำเนิดมาเมื่อปี 2014 รู้จักกันในนาม Antshares
หลายๆคนบอกว่ามันคือ China’s Ethereum เพราะ NEO นั้นก็ต้องการเป็นแพลฟอร์ม ที่คนเลือกสร้าง decestralized application ไม่ต่างกับ Ethereum
เช่น NEO สามารถสร้าง เก็บ และแลกเปลี่ยนทรัพย์สินหรือสิ่งของในรูปแบบของเหรียญได้ ไม่ว่าจะเป็นของที่มีตัวตนบนโลกจริงๆหรือบนโลกดิจิตอล เช่นที่ดิน ทอง หุ้น สกุลเงิน เหรียญICO คะแนนสะสมแต้ม และอื่นๆอีกมาก
นอกจากนั้น NEO ก็มีระบบ Smart Contract ที่เราคุ้นเคยกันใน Ethereum อีกด้วย
รีแบรนด์
NEO มีการรีแบรนด์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ด้วยเหตุผลที่ทางโปรเจคนั้นต้องการขยายไปยังตลาดโลก ซึ่งในอดีต โปรเจคโฟกัสเพียงแต่ตลาดจีน และข้อมูลการใช้งานส่วนใหญ่ รวมทั้ง Block explorer ยังเป็นภาษาจีน การรีแบรนด์ครั้งนี้จึงทำให้คนเริ่มสนใจ NEO ขึ้นมาก
เหรียญในระบบ NEO
NEO
เหรียญ NEO นั้นแสดงถึงหุ้นส่วนใน Network หรือพูดง่ายๆว่า เราเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเราดังนี้
- โหวทเลือก Bookkeeper หรือ ผู้ดูแลบัญชีข้อมูลของ NEO (จะอธิบายเพิ่มหัวข้อถัดไปครับ)
- โหวทข้อเสนอและทิศทางในอนาคตของโปรเจค NEO
- ได้รับ GAS ในทุกๆทั้งที่มีการสร้างบล็อคใหม่ ในเรท 0.5 GAS ต่อ 1000 NEO ต่อวัน
เหรียญ NEO มีจำนวนทั้งหมด 100ล้านเหรียญ ซึ่ง50%ของเหรียญทั้งหมดนั้นทางทีม NEO จะเป็นผู้บริหาร ซึ่งจะแบ่งไว้ให้นักพัฒนาแอป ผู้ให้การสนับสนุน เก็บเป็นทุนพัฒนาโปรเจค ทุนไว้ลงทุนกับโปรเจคอื่นๆ และเป็นเงินเก็บสำรอง
ส่วนที่เหลืออีก 50% คือที่ถูกปล่อยออกมาขายตาม Exchange
GAS
เป็นเหมือนแก้สตามชื่อ เปรียบได้กับเชื้อเพลิงที่ไว้รัน Network
- จ่ายค่าใช้งาน NEO บล็อคเชน ทั้งการรันแอป รัน smart contract
- เอาไว้จ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับ Bookkeeper ที่ช่วยรันและตรวจสอบระบบ
GAS นั้นจะมีได้ทั้งหมด 100ล้าน (ปัจจุบันมีประมาณ 9.6ล้าน) และจะใช้เวลาถึง 22ปีที่จะครบจำนวนตามนั้น ส่วน GAS ที่ถูกผลิตมาในแต่ละบล็อคจะถูกกระจายให้หุ้นส่วนใน Network หรือผู้ถือ NEO นั้นเอง
ระบบทำงานยังไง ขุดได้รึเปล่า?
NEO นั้นไม่ได้ใช้ Proof of Work (แปลว่าขุดไม่ได้) และขณะเดียวกัน มันก็ไม่ได้ใช้ Proof of Stake กลับกัน NEO ใช้ระบบ consensus mechanism ที่เรียกว่า Delegated Byzantine Fault Tolerant หรือ dBFT
ระบบนี้ทำงานโดยการให้หุ้นส่วนหรือผู้ถือ NEO ทั้งหมด ใช้สิทธิในการโหวท (แบบประชาธิปไตย) เลือกกลุ่มคนที่จะมาทำการดูแลและตรวจสอบ transaction ต่างๆในระบบ ซึ่งเราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Bookkeeper พูดง่ายๆก็เหมือนคนตรวจสอบข้อมูลบล็อคเชนของ NEO ไม่ต่างจากเครื่องขุดนั้นเอง
เมื่อถึงเวลามีการสร้างบล็อคใหม่ ระบบจะแรนด้อมเลือก Bookkeeper หนึ่งคนจากทั้งหมด และแต่งตั้งคนนั้นเป็นเหมือนประธาน ซึ่งประธานจะต้องประกาศข้อมูลที่ตัวเองมีให้กับทุกคน
ถ้าอย่างน้อย 2ใน3 ของ Bookkeeper ทั้งหมดนั้นเห็นพ้องกันว่าข้อมูลถูกต้อง บล็อคใหม่ก็จะถูกสร้างขึ้นมา
NEO กล่าวไว้ว่าระบบนี้จะมีความปลอดภัยมากกว่า รวดเร็วกว่า ไม่เสี่ยงต่อการมี Hardfork และที่สำคัญไม่เปลืองไฟเปลืองพลังงานเหมือนกัน Proof of Work
ทำไม NEO ถึงน่าลงทุน
Ethereum of China
เราเห็นกันบ่อยครั้งว่าส่วนมากประเทศจีน จะเลือกใช้ของที่มาจากจีน (ถ้าเลือกได้)
อีกทั้งการที่บริษัทต่างชาติจะเข้าไปตีตลาดจีนนั้นจะมีอุปสรรคเช่นเรื่องภาษาและคอนเนคชั่น สู้ยากเมื่อเทียบกับบริษัทในจีนลุยเองอยู่แล้ว ผลก็คือ คนหวังว่า NEO จะเป็นแพลตฟอร์มที่บริษัทต่างๆในจีนหรือแม้แต่รัฐบาลจีนเลือกใช้ในอนาคต
โปรเจคบน NEO
ตอนนี้ในตลาด Crypto เรามีแพลตฟอร์มมากมายที่คนสามารถเอาไปใช้สร้าง Decentralized application ได้ แต่เรากลับไม่เห็นใครเอามันไปสร้างแอปจริงๆจังๆซักเท่าไหร่ และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ Ethereum มีมูลค่าสูงต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆเพราะเราเห็นโปรเจคต่างๆมากมายได้ใช้ Ethereum สร้างแอปของตัวเอง หรือใช้ Ethereum ทำ ICO พูดง่ายๆว่ามีคนใช้จริงๆนั้นเอง
NEO ก็คงไม่ต่างกัน เมื่อเร็วๆนี้มีโปรเจคเริ่มประกาศใช้ NEO แล้วเช่น
- Red Pulse – โปรเจคนี้ใช้ NEO สร้างแพลตฟอร์มที่คนสามารถแชร์ข้อมูลทางการเงินของตลาดจีนได้ คล้ายๆกับ Bloomberg terminal แต่ให้รางวัลคนที่แชร์ข้อมูลแทน
- Elastos – NEO ได้ประกาศทำงานร่วมกับ Elastos เพื่อจะสร้าง Operating system สำหรับ Blockchain
- Nest Smart Fund – โปรเจคนี้ใช้ NEO smart contract เพื่อสร้างกองทุนขึ้นมา (คล้ายๆกับ The DAO)
- ALIS Media – โปรเจคนี้มีเป้าหมายที่จะเป็น Steemit สำหรับญี่ปุ่น โดยเลือกทำ ICO บน NEO
Programming language
ถ้าเราใช้ Ethereum เขียน smart contract เราก็ต้องใช้ภาษา Solidity
ถ้าเราใช้ Stratis เขียน เราต้องใช้ C#
ถ้าเราใช้ Lisk เขียน เราต้องใช้ JavaScript
ถ้าเราใช้ NEO หละ? NEO นั้นซัพพอร์ทหลายภาษาด้วยกันเช่น Java / Kotlin, .NET C # / VB, JavaScript / Typescript, Python, Go ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีที่ทำให้ NEO ได้เปรียบคู่แข่งมากเลยทีเดียว เพราะมันจะดึงดูดให้นักพัฒนาสามารถเข้ามาทดลองใช้ได้ง่าย ไม่ว่าจะมาจากสายไหน ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาใหม่
ราคายังต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
มาที่คำถามสำคัญ “มูลค่ามันจะเพิ่มอีกไหม?” “ยังลงได้ไหม? หรือไม่ทันแล้ว”
คอยน์แมนคิดว่า นี่พึ่งเป็นจุดเริ่มต้นครับ มาดูเหตุผลกัน
- มูลค่าของ NEO ตอนนี้สูงกว่า ETC แค่นิดเดียว ซึ่งในความเห็นผมแล้ว ETC เองยังไม่ได้มี positioning ในทางตลาดดีเท่า NEO เลยด้วยซ้ำ เอาแค่ว่าถ้าคุณจะสร้างแอป ทำไมคุณถึงเลือกใช้ ETC แทน ETH ก็ให้เหตุผลยากแล้ว แถมยังไม่มีกลุ่มผู้ใช้ที่แน่นอนเหมือน NEO ที่เจาะตลาดจีนได้ ดังนั้นมูลค่าของ NEO ควรจะสูงกว่า ETC อีกหลายเท่าเลยด้วยซ้ำ
- นักลงทุนไม่อยากพลาดโอกาศทองเหมือนที่เคยพลาดกับ Ethereum มา เพราะเมื่อต้นปีเราได้เห็นกันแล้วว่า Ethereum นั้นเติบโตเร็วขนาดไหนเมื่อมีคนเริ่มสร้างแอปหรือทำ ICO บนแพลตฟอร์มมันมากขึ้น ดังนั้นจะไม่แปลกเลยที่มูลค่าของ NEO นั้นจะไต่ไปได้อย่างน้อย 1ใน3 มูลค่าของ Ethereum
ข้อควรระวัง
- ข้อมูลข่าวสารติดตามยากเพราะเป็นภาษาจีน เราอาจได้ข่าวอาจช้ากว่าคนอื่น
- ความคาดหวังของคนที่สูงเกินไป เพราะคิดว่ามันเทียบกับ Ethereum ได้ เราอาจจะต้องดูกันก่อนว่า ICO บน NEO ผลออกมาเป็นไง หรือโปรเจคที่สร้างบน NEO จะมีปัญหาอะไรไหม (Ethereum ช่วงแรกก็มีปัญหา)
- บริษัทในจีนอาจเลือกใช้แพลตฟอร์มอื่น
- การแทรกแซงของรัฐบาลจีนในวงการ Blockchain
ปิดท้าย
- ถ้าถือ NEO อยู่ จะเคลม GAS ได้ต่อเมื่อเราถือมันใน Address ของเราเอง ที่ไม่ใช่ Exchange นะครับ (ยกเว้น Binance Exchange ที่จะเครดิต GAS ให้) ถ้าสงสัยถามได้ครับ
- NEO เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาวนะครับ น่าจะยังไปได้อีกหลายเท่าตัว (⅓ ของมูลค่า ETH ได้ไม่ยาก)
- ราคาตอนนี้อาจจะสูงเพราะคนแห่เข้ามาซื้อ เราอาจจะรอ dip/correction ได้ ถ้าเงินเย็นไม่ซีเรียสจะเข้าเลยก็ได้ครับ
- NEO – Coinmarketcap – ซื้อได้ที่ Bittrex
- GAS – Coinmarketcap – ซื้อได้ที่ Binance
ขอให้ทุกคนลงทุนกันอย่างระมัดระวังนะครับ
อย่าลงเงินมากกว่าที่ตัวเองจะเสียได้นะครับ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางคอยน์แมนเพจครับ