ปี 2017 นั้นอาจเรียกได้ว่าปีแห่ง ICO กันเลยทีเดียว
เราได้เห็นบริษัทมากมายหันมาระดมทุนด้วย ICO (เกิน 100 แล้ว) เฉพาะปีนี้ เงินระดมทุนได้พุ่งสูงเกิน $1 Billion และได้ทำสถิติสูงกว่าเงินระดมทุนจาก Venture capitalist และ Angel investor ในรายเดือนอีกด้วย
เมื่อ ICO มีเยอะ ตัวเลือกเยอะ เงินลงทุนก็กระจายกันไป ทำให้เกิดความเสี่ยงว่า ICO ที่เราลงนั้นอาจจะได้กำไรน้อย หรือถึงขั้นขาดทุนได้กันเลยทีเดียว
แต่ถ้าเราลงถูกตัว จะ 10เท่า 20เท่า ก็ไปได้ครับ
ดังนั้นวันนี้คอยน์แมนขอแชร์ทริค 3ข้อในการเลือก ICO นะครับ (แนะนำให้ใช้ร่วมกับวิธีการเลือกเหรียญที่เคยลงไปในบทความเก่านะครับ)
1. Hard cap check
Hard cap หรือเพดานเงินลงทุนที่ ICO นั้นต้องการ แบบไหนถึงเรียกว่าดี มาดูกันครับ
ไม่มีเพดาน หรือเพดานสูง = ไม่น่าซื้อ
ปกติแล้วผมจะผ่านไปเลยถ้า ICO นั้นเปิดรับเงินอย่างไม่จำกัด
เหตุผลก็คือ ถ้าไม่มีเพดานหรือเพดานสูง ใครๆก็ซื้อได้ใช่ไหมละครับ แล้วถ้าทุกคนสามารถซื้อได้ จนดันมูลค่าระดมทุนไปถึงซัก $100m หรือ $200m แล้ว พอเวลาเอาเข้า Exchange ใครจะซื้อละครับ
ในเมื่อคนที่อยากได้ก็ซื้อใน ICO กันไปแล้ว แถมซื้อในราคาเดียวกันด้วย มันก็ไม่มี Demand เพิ่มตอนเข้าตลาด
ผลก็คือราคามันขึ้นไปอีกได้ไม่ไกล หรือราคาตกลงด้วยซ้ำ
ตัวอย่าง
- $BNT (เริ่ม $150m ตอนนี้ -33%)
- $SNT (เริ่ม $100m ตอนนี้ +0%)
เพดานต่ำ = น่าสนใจ
ตรงกันข้าม ถ้าสมมุติ ICO ระบุไว้ว่า $30m hard cap ซึ่งแปลว่าเค้าจะรับเงินไม่เกินนั้น
มันดียังไง? Scarcity ครับ หรือพูดง่ายๆ คนแย่งกันนั้นเอง เพราะคนที่ซื้อไม่ทันในช่วง ICO หรือมารู้ทีหลัง ก็จะมาแย่งซื้อกันตอนลง Exchange ผลก็คือราคาจะสูงขึ้น
ขณะเดียวกันการมีเพดานต่ำๆ เช่น $30m นั้นหมายความว่ายังมีพื้นที่ในการเติบโตได้อีกเยอะ ถ้าในอนาคตมูลค่ากลายเป็น $300m ก็ถือว่า10เท่าแล้ว
เมื่อเทียบกับ ICO ที่เริ่มมาด้วยมูลค่า $200m ถ้าอนาคตมูลค่ามันเป็น $300m ก็กำไรแค่ 50%+ เท่านั้นเอง
ตัวอย่าง
- $OMG (เริ่ม $25m ตอนนี้ 21เท่า)
- $CVC (เริ่ม $33m ตอนนี้ 4.6เท่า)
- $ZRX (เริ่ม $25m ตอนนี้ 10เท่า)
- $BQX (เริ่ม $2.2m ตอนนี้ 35เท่า)
เพราะฉะนั้นเวลาเลือก ICO เราต้องดูว่ามี hard cap ไหม แล้วต่ำขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม เราต้องดูด้วยว่าโปรเจคนั้นมีไว้ทำอะไร จะได้คำนวณการเติบโตได้ถูก เพราะไม่ใช่ทุกไอเดียที่จะสามารถไปสู่ระดับร้อยล้านดอลล่าได้
2. Hype check
ดูเรื่อง cap กันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูกระแสและเทรนด์กันบ้าง เพราะต่อให้ hard cap มันต่ำ แต่ถ้าต่ำแล้วไม่มีคนซื้อ ก็แปลว่าไม่มีคนสนใจ เข้า Exchange แล้วอาจจะราคาตกได้
ICO ที่เราต้องการคืออันที่ระดมทุนถึงเพดานในพริบตา (หรือภายใน 2-3วัน)
ICO เหล่านี้เหล่าจะมั่นใจได้ว่ามีความต้องการสูงและถ้าหมดเร็ว คนต้องแย่งกันซื้อแน่นอนเมื่อเข้า Exchange
แต่เราจะรู้ได้ยังไงหละว่ามันจะหมดเร็ว? เราเริ่มเชคได้ง่ายๆครับจาก
- Slack (มีกี่คนในแชท)
- Telegram (มีกี่คนในแชท)
- Reddit (มีโพสใหม่ๆต่อเนื่องไหมใน subreddit ของ ICO อันนี้)
- Twitter (คนพูดถึงกันขนาดไหน Twitter ของ ICO มีคน follow ขนาดไหน)
- News (เสิร์ชดูว่ามีข่าวเยอะขนา่ดไหน)
- Partner & Advisor (ถ้าได้บริษัทใหญ่หรือคนดังมาหนุน Hype มาแน่ๆ เช่นมี Vitalik คนสร้าง Ethereum เป็นที่ปรึกษาแบบ $OMG เป็นต้น)
ถ้าเราคิดว่ากระแสดี ก็อย่าลืมไปเข้าคิวรอ เตรียมพร้อมก่อนเวลา ICO ด้วยนะครับ เพราะบางอันไม่กี่นาทีหมดจริงๆ
**บางอันหมดช้าหรือไม่ถึง hard cap ด้วย แต่อาจจะเป็นของดีก็ได้นะครับ ในเคสนี้คนอาจจะไม่ค่อยรู้เพราะทางทีมงานอาจจะ marketing แย่
3. SCAM check
ทุกอย่างอาจจะดูดี แต่สุดท้ายแล้ว เราต้องดูว่ามันจริงรึเปล่า ซึ่งเราสามารถดูความน่าเชื่อถือได้ไม่ยากจาก
- ความเป็นไปได้ของไอเดีย (อ่าน whitepaper ให้ละเอียด)
- ทีมงาน ที่ปรึกษา นักลงทุน (เป็นคนที่มีตัวตนจริงๆไหม)
- มีตัวอย่างโปรดัคไหม ความคืบหน้าไปถึงไหน
- มีสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือลงข่าวเกี่ยวกับ ICO นี้รึเปล่า
- ทีมงานอัพเดทและตอบคำถามสม่ำเสมอไหม (ดูจาก blog หรือเข้าไปถามใน Slack)
- เสิร์ชใน Google ว่า “xxx ICO SCAM” อันนี้นั่งไล่อ่านได้เลยว่ามีใครไปเจออะไรน่าสงสัยไหม ส่วนมากจะมาจาก Reddit ดังนั้นเราจะเสิร์ชว่า “xxx ICO SCAM reddit” เลยก็ได้
ปิดท้าย
- นอกจาก 3ทริคนี้แล้ว อย่าลืมใช้วิธีเลือกเหรียญที่เคยโพสไปควบคู่กันไปด้วยนะครับ
- พอลง ICO แล้วอย่าลืมเชคโปรเจคเป็นระยะๆดูความคืบหน้าว่าทำได้อย่างที่พูดรึเปล่า
- ถ้า Hype เยอะ แต่เราไม่คิดว่าโปรเจคจะไปได้ไกล เราก็เลือกขายทำกำไรทันทีหลังเหรียญเข้า Exchange ก็ได้
- ถ้าคิดว่าโปรเจคสามารถเกิดเป็นธุรกิจที่ดีได้ ถือยาวเลยครับ
- ดูลิส ICO ใหม่ๆ หรือ ICO เก่าว่าได้กำไรไปเท่าไหร่
ใครไม่อยากพลาดข่าวสารเกี่ยวกับเหรียญใหม่ๆ เหรียญICO ขอเชิญเข้ากลุ่ม Thailand Crypto Talk & Trade นะครับ
ที่นี่ทุกคนช่วยกันแชร์ข้อมูลเหรียญที่น่าสนใจ มาแลกเปลี่ยนความเห็นและช่วยกันวิเคราะห์กันครับ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างระมัดระวังนะครับ
อย่าลงเงินมากกว่าที่ตัวเองกล้าที่จะเสียได้นะครับ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆกลั่นกรอง ICO ดีๆได้นะครับ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางเพจคอยน์แมนครับ
https://www.facebook.com/coinmanth/