ปัญหาที่แก้: Po.et เข้ามาแก้ปัญหาการลอกเลียนแบบหรือขโมย creative content ต่างๆ เช่นรูปภาพ บทความ งานอาร์ท และอื่นๆอีกมากมาย โดยให้เจ้าของ content สร้างหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการทำ timestamp และ licence บน content ของตัวเองลงบนบล็อคเชน
การทำเช่นนี้จะทำให้เราสามารถโชว์ได้ว่านี่เป็นผลงานของเราจริงๆ นอกจากนี้ Po.et ยังสามารถโชว์ให้เห็นว่าผลงานนี้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหามากี่ครั้ง เพราะทุกๆครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง Po.et จะสร้าง metadata hash ของเวอร์ชั่นที่แก้ไขและบันทึกไว้ในบล็อคเชน
เมื่อมีฐานข้อมูลของ creative content ในมือจำนวนมากแล้ว Po.et จึงจะสร้าง decentralized content marketplace ที่เราสามารถซื้อ content โดยตรงจากเจ้าของผลงาน ซึ่งสิ่งนี้จะเข้ามาช่วยพวก Advertiser และ Publisher ที่ต้องการหา content คุณภาพดีไปลงเวป ซึ่งในปัจจุบันนั้นอาจทั้งหายาก ติดต่อเจ้าของผลงานยาก บริหารจัดการ freelancer ยาก และที่สำคัญอาจไม่รู้ว่าผลงานเป็นของแท้หรือของก้อป
มาดูสรุป use case คร่าวๆกันครับ
- แสดงความเป็นเจ้าของผลงาน
- ใช้สมัครงาน หรือส่งงาน freelancing (จะได้รู้ว่าเราไม่ได้ไปก๊อปปี้ใครมาให้)
- ใช้ปกป้องผลงานตัวเองเผื่อใครเอาไปใช้หรือแอบอ้างโดยไม่ได้รับอนุญาติ
- ใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องทางกฎหมาย
- มอบสิทธิให้ผู้อื่นใช้
-
- ขายผลงานของตัวเองได้โดยตรง
- ให้ผลงานใช้ฟรี พร้อมกับข้อบังคับ เช่นการให้เครดิต
- ตรวจสอบว่ามีคนนำผลงานเราไปใช้มากน้อยขนาดไหน
ทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างของจริงกันบ้างนะครับ เช่น
ถ้าเราเป็น blogger ที่เขียนบทความบน facebook หรือบนบล็อกตัวเองแล้วมีสำนักข่าวก้อปปี้ข้อมูลในบทความของเราไปใช้โดยไม่ขออนุญาติและไม่ให้เครดิต พูดง่ายๆมันเอาผลงานของเราไปเคลมว่าเป็นของตัวเอง การใช้ Po.et ก็สามารถเข้ามาช่วยปกป้องผลงานของตัวเอง ด้วยการสร้างหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของไว้บนบล็อคเชน ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้หลักฐานนี้จัดการทางกฎหมายได้
อีกตัวอย่างหนึ่งของการสร้างหลักฐานบน creative content ของ Po.et คือการ license รูปภาพ เช่นถ้าเราเป็นช่างภาพแล้วโพสรูปลงบล็อกของตัวเอง โดยปกติแล้ว เวลาเราจะขอผลงานเช่นรูปภาพของใครมาใช้ ปกติจะยุ่งยากและใช้เวลานานในการติดต่อ ซึ่งส่วนมากเลยก้อปมาใช้แล้วให้เครดิตทีหลัง ด้วยการใช้ Po.et เจ้าของผลงานสามารถแนบข้อบังคับกับรูปภาพที่ตัวเองลงได้ โดยจะอนุญาติให้คนอื่นนำไปใช้ได้ฟรีๆ หรือจะคิดเงินเล็กน้อย ทางคนขอก็สามารถตัดสินใจซื้อตรงนั้นได้เลย
เหรียญ POE มีไว้ทำอะไร: ไว้รับเงินค่า fee จากการที่มีคนใช้งาน Po.et ทำ timestamp และ licence (คล้ายๆกับปันผลจากรายได้ของ Po.et) ซึ่งในอนาคตเหรียญ POE อาจจะไปใช้อย่างอื่นได้เช่นเป็นสกุลเงินที่เอามาใช้จ่ายในระบบได้
มูลค่าปัจจุบัน: $17m (marketcap ตอน ICO = $10m)
ทำไมถึงน่าลงทุน:
- มีโปรดักส์ใช้งานได้จริง และมีพาร์ทเนอร์ที่ใช้จริงด้วย เช่น Bitcoin Magazine, Coin Speaker, the Merkle (ดูตัวอย่างได้ที่บทความของ Bitcoin Magazine)
- กำลังจะเปิด integration ให้ใช้ได้กับ WordPress (นึกภาพว่ามีบล็อกเยอะขนาดไหนที่รันบน WordPress)
- เปิดตัวมานานและเคยได้ seed funding ถึง $1m มาก่อน
- พาร์ทเนอร์กับ Blink ซึ่งมีลูกค้าเช่น New York Times, ESPN, Airbnb, Google จ่ายเงินเพื่อเข้าถึง content creator บน Blink network
- มี Roadmap ที่ชัดเจน
- มูลค่ายังต่ำ คนยังรู้จักน้อย เพราะทีมงานยังไม่ได้โปรโมท และยังไม่ถูกลิสบน Exchange ใหญ่ๆ
- คู่แข่งยังน้อย และ ดูมีความคืบหน้ามากที่สุด (ตอนนี้มี CreativeChain ที่ใกล้เคียงที่สุด)
- ที่ปรึกษา/นักลงทุน ในบริษัทโปรไฟล์เยี่ยม เช่น Bo Shen (Fenbushi Capital) และ Anthony Di Iorio (Co-founder of Ethereum และ Founder of Jaxx)
ความเสี่ยง:
- การจะสร้างนิสัยใหม่ (ใช้ po.et เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของทุกครั้ง) กับผู้ใช้นั้นไม่ง่าย แต่ถ้าทำสำเร็จแล้วคนทำเป็นนิสัยจริง จะอนาคตไกลมาก
- อาจจะมีปัญหาถ้ามีคนเคลมผลงานที่ไม่ใช่ของตัวเองจริงๆ ไม่รู้ว่าทาง Po.et จะจัดการอย่างไร (อาจแก้ได้ด้วยการให้คนยืนยันผลงานเป็นนิสัยทุกครั้ง)
- การตลาดแทบเป็นศูนย์ (ล่าสุดเห็นทางทีมงานกำลังจะจ้างพนักงานฝ่าย marketing & pr แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก)
ระยะสั้น: ราคาน่าจะยังไม่ขึ้นมากจนกว่าจะได้ลิสใน Exchange ใหญ่ๆ ซึ่งทางทีมงานก็พยายามติดต่ออยู่ หรือรอให้คนดังในวงการ Crypto เจอเหรียญนี้และช่วยโปรโมท
ระยะยาว: ในระยะ 6 เดือน คิดว่าราคา ขึ้น 10เท่าหรือมากกว่าได้ไม่ยาก ถ้ามีคนเริ่มรู้จักและมีการพาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นๆมากขึ้น สำหรับระยะยาวกว่านั้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าคอนเซปนี้เข้ามาแก้ปัญหาจริง ตัวนี้อนาคตไกลแน่นอนครับ
ซื้อได้ที่ไหน: EtherDetla
สรุป: ถ้าใครสนใจคอยจับตาดูบน EtherDelta แล้วทยอยซื้อได้เลยครับ แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการเหรียญ small cap ไว้ถือระยะยาว
**ตัวนี้คอยน์แมนลง ICO ไป แต่ก็ทยอยซื้อเพิ่มเรื่อยๆเวลาราคามันตก**
DYOR (Do Your Own Research) หรือค้นหาข้อมูลด้วยตนเองเสมอ แล้วเอามาเปรียบเทียบก่อนที่จะลงทุนอะไรทุกครั้งนะครับ
ไม่ควรซื้อตามใครโดยที่ไม่เชคทั้งสิ้น และที่สำคัญ อย่าลงเงินมากกว่าที่ตัวเองจะเสียได้นะครับ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางเพจคอยน์แมนครับ
