ICO date: 15 พฤศจิกายน 2017
- การลง ICO จะมี cap ต่อคน และมีการทำ KYC
- ใครที่อยากลง Presale ต้องทำ Proof of Caring โดยการช่วยแชร์เกี่ยวกับ Quantstamp (ปิดวันที่ 11 พฤศจิกายน) แล้วเอาหลักฐานกรอกฟอร์มนี้
Hard cap: $30m (Presale $11m + Crowdsale $19m)
Website: https://quantstamp.com/
ปัญหาที่แก้: ในปัจจุบันเราได้เห็นโปรเจคที่ใช้ Ethereum ในการสร้างผุดขึ้นมามากมาย พวกเราส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าจุดเด่นของ Smart Contract คือมันจะทำงานอัตโนมัติเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดเกิดขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งตัวกลางใดๆ (ไม่มีความเสี่ยงและความผิดพลาดจากมนุษย์นั้นเอง) ซึ่งมันอาจจะดูเพอร์เฟค แต่อย่าลืมว่ามนุษย์เรานี่แหละเป็นคนเขียน Smart Contract ขึ้นมา แปลว่ามันก็ยังมีความเสี่ยงที่โค้ดที่เขียนนั้นมีช่องโหว่ได้
ตัวอย่างช่องโหว่ที่ทำให้ถูกแฮกเงินไปเช่น
- The DAO $55m เมื่อตอน 17 มิถุนายน 2016
- Parity Wallet $32.6m เมื่อตอน 20 มิถุนายน 2017 (กระเป๋าของ ICO ถูกแฮก ถ้าเรายังจำกันได้)
Quantstamp นั้นจะเข้ามาแก้ปัญหานี้โดยการสร้างระบบอัตโนมัติที่สามารถช่วย audit หรือตรวจสอบ Smart Contract ได้ พูดง่ายๆก็คือถ้าโค้ดโปรเจคนั้นผ่านการแสตมป์จาก Quantstamp แปลว่ามันเชื่อถือได้ ซึ่ง Smart Contract ในที่นี้ก็รวมไปถึงโค้ด ICO (ดูว่ามันมีช่องโหว่ให้เกิดการโกงตอนลง ICO ไหมเป็นต้น) และโค้ดตัวโปรดักส์เองด้วย
Quantstamp ทำงานโดยมี 4 ฝ่ายด้วยกันหลักๆ
- เจ้าของโปรเจคที่เขียน Smart Contract ขึ้นมาและต้องการตรวจสอบโค้ดตัวเองโดยจ่ายเหรียญ QSP เป็นการตอบแทน
- นักพัฒนาที่เขียนโค้ดมาเพื่อทดสอบ Smart Contract (พูดง่ายๆคือหาทางทำให้ Smart Contract นั้นพังหรือเจาะระบบให้ได้) โปรแกรมทดสอบนี้จะถูกบันทึกใน Quantstamp Security Library และถูกใช้เชค Smart Contract อัตโนมัติ ซึ่งกลุ่มนี้จะได้เหรียญ QSP เป็นค่าตอบแทน
- แฮกเกอร์อิสระ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะสามารถเข้ามาเดี่ยวๆแล้วหา Bug หาช่องโหว่จุดบกพร่องใน Smart Contract เพื่อแลกกับเหรียญ QSP (เป็นเหมือนล่ารางวัล Bounty ถ้าหาเจอ) ซึ่งการตรวจสอบด้วยคนจริงแบบนี้จะมาช่วยยกระดับการตรวจสอบให้ดีขึ้น ดีกว่าที่จะใช้โค้ดทดสอบอัตโนมัติอย่างเดียว
- Node ตรวจสอบ ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยรันโค้ดทดสอบ Smart Contract ที่อยู่ใน Security Library (คล้ายกับการขุด แต่เป็นการช่วยรันโปรแกรมทดสอบแทน)โดยคนที่ช่วยเปิด Node นั้นจะได้ผลตอบแทนเป็นเหรียญ QSP
หลักการใช้งานก็ไม่ยาก คนเขียน Smart Contract ก็ส่งโค้ดลง Quantstamp หลังจากนั้นระบบจะตรวจสอบให้ด้วยการใช้โค้ดทดสอบที่อยู่ใน Security Library หลังจากตรวจสอบเร็จแล้ว ผู้สร้าง Smart Contract ก็จะได้ Report ที่จะเอาไปปรับปรุงโค้ดของตัวเอง ส่วน Public ก็จะสามารถดู Report คร่าวๆได้เช่นกันว่าโปรเจคนี้ปลอดภัยที่จะลงทุนหรือใช้งานรึเปล่า สำหรับโค้ด Smart Contract ที่ตรวจสอบแล้วผ่านก็จะถูกบันทึกลงบนบล็อกเชน (ถือว่าได้รับการแสตมป์จาก Quantstamp)
เหรียญมีไว้ทำอะไร: เหรียญ QSP มีไว้จ่ายค่าตรวจสอบ Smart Contract ทั้งกำคนสร้างโค้ดทดสอบ คนเปิด Node ช่วยรันการทดสอบ และตัวบุคคลที่เข้ามาหา Bug ให้
ทำไมถึงน่าลงทุน:
- เป็นไอเดียที่เข้ามาแก้ปัญหาที่สำคัญมากๆ คนจะใช้เพราะกันไว้ดีกว่าแก้
- มีสิทธิที่จะได้เป็นเหมือน standard ใหม่ในการ audit โค้ด Smart Contract ในอนาคต ประมาณว่าใครทำโปรเจคบน Ethereum ก็จะต้องใช้ Quantstamp เพื่อให้นักลงทุนและผู้ใช้เชื่อใจ (Network effect)
- เติบโตควบคู่ไปกับโปรเจคที่ทำบน Ethereum ซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ดูได้จากจำนวน ICO ที่เพิ่มขึ้น)
- ทีมงานดี แถมมีที่ปรึกษาเช่น Evan Cheng ที่เป็น Director of Engineering ของ Facebook อีกด้วย (อุปสรรคทางเทคนิคไม่น่ามีแน่นอน)
- Telegram ตอนนี้ก็ 6พันคนได้แล้ว
ความเสี่ยง:
- ปัจจุบันมีบางบริษัทที่ช่วยทำ audit ให้อยู่แล้ว จึงอาจจะต้องดูว่าระบบอัตโนมัติแบบ Quantstamp จะทำให้คนเชื่อถือได้มากกว่าบริษัทเหล่านี้ขนาดไหน
- ระบบใช้ได้กับ Ethereum Smart Contract เท่านั้น (ไม่เชิงว่าเป็นข้อเสียเพราะปัจจุบันโปรเจคส่วนมากก็ใช้ Ethereum กันอยู่แล้ว อนาคตไม่น่าจะยากที่จะขยายไป platform อื่นๆ)
ราคาตอนเข้า Exchange: โอกาส flip ได้สูง แต่อาจจะไม่ได้กำไรแบบเบิ้ลตอนเข้าตลาด เพราะว่าตอนนี้จำนวน ICO เยอะมากๆ การเข้าตลาดแล้วเบิ้ลหรือมากกว่านั้นยากขึ้นเยอะ
ราคาระยะยาว: ระยะยาวนั้นดีมาก เนื่องจากยังไม่มีคู่แข่ง (ถือว่าเป็น first mover) ถ้าคนหันมาใช้ Quantstamp กันมากขึ้น มันก็จะเกิด Network effect ทำให้โปรเจคใหม่ๆต้องใช้ Quantstamp เช่นกัน
สรุป: ถือว่าเป็น ICO ที่ห้ามพลาดอีกตัวเลยทีเดียว ส่วนตัวแล้วคอยน์แมนลงแน่นอนครับ
**บทความนี้ก็เป็นถือว่าเป็น Proof of Care นะครับ**
DYOR (Do Your Own Research) หรือค้นหาข้อมูลด้วยตนเองเสมอ แล้วเอามาเปรียบเทียบก่อนที่จะลงทุนอะไรทุกครั้งนะครับ
ไม่ควรซื้อตามใครโดยที่ไม่เชคทั้งสิ้น และที่สำคัญ อย่าลงเงินมากกว่าที่ตัวเองจะเสียได้นะครับ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางเพจคอยน์แมนครับ