วิเคราะห์ตลาด

Bitcoin Cash – จุดเริ่มต้นของสงคราม !?

เกิดอะไรขึ้น?

ราคา Bitcoin Cash หรือ BCH ได้ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อต้นเดือน จาก $430 จนมาทำจุดสูงสุดไว้ที่ $2426 (นี่เป็นตัวเลขโดยเฉลี่ย บาง Exchange นั้นขึ้นไปถึง $2700) ในระยะเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ และล่าสุดได้ลงมาทรงตัวอยู่ที่ประมาณ $1100

มีช่วงที่มูลค่า Bitcoin Cash แซง Ethereum ไปได้ ซึ่งบางคนเข้าซื้อช่วงนั้นเพราะคิดว่ามันจะ flip แซง BTC ได้อีกด้วย

มันมีที่มายังไง?

ถ้าเรายังจำกันได้ Bitcoin Cash นั้นถือกำเนิดมาในวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 เนื่องจากความขัดแย้งในเรื่อง scaling solution ของ Bitcoin ซึ่งมีเป้าหมายในการแก้ปัญหาโอนช้าและแพงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยย่อแล้วแต่ละฝ่ายมีวิธีการแก้คือ

  • SegWit + Lighting Network
  • ขยายขนาดบล็อก

เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ทางฝั่งที่สนับสนุนการขยายขนาดบล็อกเลยตัดสินใจ Hard fork แยกตัวออกมาเป็น Bitcoin Cash ด้วยความเชื่อที่ว่านี่เป็น solution ที่ทำให้บิทคอยน์เป็น Peer-to-peer Electronic Cash System ใกล้เคียงอุดมการณ์ของ Satoshi มากที่สุด (ไว้โอกาสหน้าจะมาเปรียบเทียบทั้งสอง solution อย่างละเอียดนะครับ)

ส่วนที่ว่าทำไมราคา BCH ถึงเพิ่มขึ้นสูงขนาดนี้ มันมีทั้งหมด 3 ปัจจัยหลักๆครับ

  • การหันมาสนับสนุน Bitcoin Cash อย่างเต็มตัวจากฝ่ายที่ต้องการขยายขนาดบล็อก

หากใครได้ติดตามบทความเก่าเรื่อง B2X hard fork แล้วน่าจะจำกันได้ว่า ในตอนนั้นคอยน์แมนคาดว่า B2X นั้นจะไม่มีคนซัพพอร์ท เนื่องจากกลุ่มคนที่ต้องการขยายขนาดบล็อกนั้นมี BCH แล้ว ซึ่งหลังจาก B2X ดูจะล้มเหลว คนกลุ่มนี้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะแบค BCH เต็มที่ (Roger Ver, Jihan, etc.) ทำให้มีผลต่อราคาเป็นอย่างมาก แม้แต่ Gavin Andreson นักพัฒนา Bitcoin ที่เคยทำงานร่วมกับ Satoshi ในช่วงแรกนั้นก็ยังออกมาเห็นด้วยกับ BCH ว่าเป็นเหรียญที่ตรงอุดมการณ์ของ Bitcoin ที่แท้จริงอีกด้วย

  • Bitcoin Cash hard fork ที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 พ.ย.

ตั้งแต่เปิดตัวมา BCH นั้นพบปัญหาเรื่องไม่มีคนขุด นั้นเป็นเพราะว่า BTC และ BCH นั้นใช้ algorithm ในการขุดอันเดียวกัน คนขุดก็จะเลือกขุดเหรียญที่กำไรมากที่สุด ผลก็คือกว่าบล็อกใหม่จะถูกขุดนั้นใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทำให้ network ของ BCH ค้างไม่ขยับไปไหน

ตามหลักแล้ว ถ้าไม่มีคนขุด ระบบก็จะปรับความยากในการขุด (difficulty) ให้ได้เงินง่ายขึ้นเพื่อดึงดูดคนมาขุด แต่ปัญหาคือระบบบิทคอยน์นั้นจะปรับ difficulty ทุกๆ 2016 บล็อกหรือใช้เวลา 2 อาทิตย์เลยทีเดียวถ้าใช้เรทการขุดปกติซึ่งก็คือ 1 บล็อกต่อ 10 นาที ถ้าให้รอถึง 2 อาทิตย์ BCH ก็คงเป็นอัมพาตก่อน

เพื่อแก้ปัญหานี้ Bitcoin Cash เลยทำการอัพเกรด Hard fork ระบบ (ย้ำว่าอัพเกรด ไม่มีเหรียญใหม่เกิดขึ้น) โดยใส่ระบบ Emergency Difficulty Adjustments ทำให้มีการปรับ difficulty ได้เร็วขึ้น ทำให้รายได้สมเหตุสมผลขึ้น ผลก็คือนักขุดจะสนใจสลับเปลี่ยนมาขุด BCH มากขึ้นและทำให้ระบบ BCH ไม่มีปัญหาค้างอีกต่อไป

  • การปั่นราคาจากเกาหลี

บางคนเชื่อว่าการที่ BCH ขึ้นครั้งนี้หลักๆเป็นเพราะถูกปั่นราคาโดยมาจากทางเกาหลีซะส่วนใหญ่

(ปกติแล้ว volume เทรด BTC ของ Bithumb นั้นไม่เกิน $500m ด้วยซ้ำ มาคราวนี้ BCH volume แซงไปไกล)

ผลกระทบในตลาด

ช่วง BCH ขึ้น

  • เงินไหลเข้ามาที่ BCH ทำให้คนเท BTC และ Altcoin เพื่อไปเล่น BCH ในระยะสั้น
  • ถือเป็นจังหวะให้ BTC เข้าสู่ช่วง correction (ยังไงต้องเกิดอยู่แล้ว เพราะมันขึ้นยาวมานานมากโดยไม่มีย่อเลย) BTC ร่วงลงมาจาก $7000 ไปที่ $5500 ในวันเดียว
  • Altcoin ร่วงเช่นกัน เพราะผูกกับ BTC

ช่วง BCH ตก

  • BTC ขึ้นและกลับมาทรงตัวอยู่ที่ $6600
  • BTC ขึ้น Altcoin ก็เด้งกลับขึ้นมา ถึงแม้ยังต่ำอยู่เมื่อเทียบกับวันก่อนๆ

นอกจากมีผลกับราคาเหรียญในตลาดแล้ว การโอน transaction BTC ก็เป็นปัญหา ยังรอการ process/confirm อยู่ถึง 170,000 รายการ บางคนโอนกันเป็นวัน บวกกับมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง $10 ต่อรายการ ซึ่งเป็นผลมาจาก hashrate ที่ขุด BTC นั้นตกลงไปครึ่งนึง (คนขุดย้ายไปขุด BCH เพราะตอนนั้นกำไรดีกว่า) **แนะนำให้ใช้ ETH โอนแทนนะครับช่วงนี้**

สำหรับพวกเรา

ใครที่จะเทรด BCH ในช่วงนี้ควรจะระวัง เพราะอาจจะมีการ pump & dump เกิดขึ้นได้อีกหลายครั้ง ส่วนการเติบโตระยะขาวของ BCH นั้นก็มีความเป็นไปได้สูงเช่นกันเพราะฝั่งสนับสนุนการขยายบล็อกก็ได้ออกตัวกันอย่างชัดเจนแล้ว รวมถึงยังมีข่าวลือที่ Roger Ver ได้โอน 25,000 BTC ไป Bitfinex เพื่อที่จะย้ายไป BCH (ก่อนหน้านี้เค้าก็เคยบอกว่า คิดที่จะย้ายเมื่อเวลาเหมาะสมเช่นกัน จากรูปข้างล่าง Roger คือ MemoryDealers)

แต่อย่าลืมว่าสุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนแค่กลุ่มเดียว เราต้องมาดูและวัดกันที่นักลงทุนส่วนใหญ่ ว่าจะมีคนกล้า“ถือ” BCH กันซักขนาดไหน (ที่ไม่ใช่เทรดทำกำไร แต่กล้าถือเหมือนถือ BTC ระยะยาว)

จับตาที่จีนไว้!! ถ้าจีนกลับมาแล้วมีการสนับสนุน BCH อย่างเป็นทางการ เราก็อาจจะได้เห็นการปั้มราคาอีกครั้ง

ส่วนตัวคาดว่าเราไม่น่าจะได้เห็นราคา BCH แซง BTC เพราะว่าคนที่เข้าตลาด Crypto มาล้วนแต่ต้องการซื้อ Bitcoin หรือแบรนด์ BTC นั้นเอง ส่วนใหญ่ไม่ได้แคร์ว่าเบื้องหลักทางเทคนิคมันเป็นยังไง ยกเว้นในเคสที่ BCH นั้นแย่งชื่อ Bitcoin มาได้และคนยอมรับกันในวงกว้าง

คนที่เทรด Altcoin นั้นก็ควรระวัง อย่างแรกคือราคา Altcoin นั้นยังผูกกับ BTC ถ้า BTC ลงแรง Altcoin ก็ยังตกตาม อย่างที่สองคือ BCH นั้นถือว่าเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด Crypto เหมือนกัน ในเมื่อเงินในตลาดไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก การที่เงินไปจมที่ BTC และ BCH นั้นไม่ดีต่อ Altcoin ซักเท่าไหร่ ซึงสรุปได้ว่าถ้ามีการปั้ม BCH เกิดขึ้นอีกครั้ง เราอาจได้เห็น Altcoin ราคาตกอีกได้ครับ

ส่วนตัวแล้วคอยน์แมนคิดว่าสงครามพึ่งจะเริ่มครับ มันเป็นเกมระยะยาวและไม่จบง่ายๆ (มีปั้มรอบสองรอบสามแน่นอน) ขอให้เพื่อนๆเทรดกันอย่างระมัดระวังนะครับ 🙂

 

ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางเพจคอยน์แมนครับ

https://www.facebook.com/coinmanth/