วิเคราะห์ตลาด

สรุปตลาด Crypto พฤศจิกายน 2017

เดือนพฤศจิกายนมีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว วันนี้คอยน์แมนเลยถือโอกาสมาสรุปสภาวะตลาดและไฮไลท์กันนะครับ

ตลาดโดยรวม

เดือนนี้ถือเป็นตลาดขาขึ้นเลยก็ว่าได้ มูลค่าของตลาดได้เพิ่มจาก $180bn ไปยัง $320bn (ในที่สุดก็ทะลุ $300bn) โดยมี BTC ที่กินส่วนแบ่งตลาดอยู่ถึง 56% เลยทีเดียว ตอนนี้ตลาด Crypto ถือว่ามีมูลค่าแซงบริษัทอย่าง Visa แล้วนะครับ

ช่วงต้นเดือนราคา BTC พุ่งสูงขึ้นเพราะเรื่องข่าวดีๆ บวกกับมี chain split จากการ hard fork ของ Bitcoin Gold ทำให้คนถือ BTC รอเหรียญฟรีกัน นอกจากนี้ยังมี BCH ที่ราคาขึ้นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นม้ามืดของเดือนเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ทำให้ Alt นั้นราคาตกลงในช่วงแรกเพราะคนสลับกันถือ BTC กับ BCH แต่มาใกล้สิ้นเดือน Alt ก็ขึ้นพร้อมกับ BTC

เดือนนี้เกือบจะจบอย่างสวยงามสำหรับ Alt แต่ทว่า BTC กลับพุ่งทะลุ $10,000 ตอนสิ้นเดือน ทำให้ Alt บางตัวตกนิดหน่อย แค่นั้นยังไม่พอ วันที่ 29, BTC ถูกทุบจากจุดสูงสุดที่ $11,600 ลงมา $9,600 (-$2,000) ก่อนที่จะกลับมาทรงตัวที่ $10,000 ผลก็คือ Alt เละแต่ไม่ได้กลับมาที่เดิมเหมือน BTC อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็ยังถือว่า Alt ขึ้นมาเยอะพอสมควรในเดือนนี้

**รู้หรือไม่ว่าระหว่างวันที่ 12-13 เดือนนี้เป็นวันที่ Volume การเทรดสูงที่สุดในตลาด Crypto ซึ่งมี Volume ถึง $26bn เลยทีเดียว

เหตุการณ์สำคัญ

เดือนนี้มีอะไรน่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว เช่น

  • USDT Hack ที่นอกจากทาง Tether ออกมาบอกว่าจะไม่รับผิดชอบในเงินตรงนั้นแล้ว มันยิ่งทำให้คนเริ่มสงสัยมากขึ้นว่าเงิน USDT นั้นมีเงินดอลลาร์ค้ำอยู่จริงๆรึเปล่า เพราะทางบริษัทไม่ยอมเอาทรัพย์สินเงินที่ค้ำนั้นออกมาให้ดูตามคำเรียกร้อง หรือไม่มีการตรวจสอบโดยบริษัท Audit อื่นๆเลย (คนถามกันมานานแล้ว ยิ่งเกิดเรื่องคนยิ่งสงสัย)
  • Confido SCAM ที่ทางทีมงานได้ทำ ICO ไปได้ไม่นาน ได้เงินไปประมาณ $400k ซึ่งในช่วงแรกเนื่องจากเป็น ICO ที่มี hard cap ต่ำ นักลงทุนก็เข้ามาซื้อจนดันราคาขึ้นไปได้ถึง $8m หรือ 20เท่านั้นเอง แต่แล้วจู่ๆทีมงานก็ออกมาบอกว่ามีปัญหาทางกฎหมาย และหลังจากนั้นก็ปิดเวป ปิด social channel ต่างๆแล้วหายตัวไปเลย ทำให้ market cap ตกมาเหลือ $45k (KuCoin ก็ปิดการเทรดเหรียญนี้ เนื่องจากติดต่อทางทีมงานไม่ได้) ไปดูชาร์ทที่น่ากลัวสุดๆได้ที่นี่
  • Parity Bug ที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยนักพัฒนาทำให้เกือบ 600 กระเป๋าถูกล็อคและเข้าไปถอนเงินออกไม่ได้ โดยที่มูลค่ารวมของกระเป๋าเหล่านั้นเท่ากับ 513,774 ETH หรือ $230m

มาดูข่าวดีๆกันบ้างครับ

  • CME หนึ่งใน Exchange ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดอนุพันธ์และฟิวเจอร์ในอเมริกา กำลังจะเปิดให้เทรดฟิวเจอร์สำหรับบิทคอยน์ในเดือนธันวานี้ จริงๆแล้วการเทรดบิทคอยน์ฟิวเจอร์ไม่ใช่อะไรใหม่เพราะเราก็ทำได้ใน OKcoin หรือ Bitfinex อยู่แล้ว แต่การมาของ CME ทำให้สถาบันการเงินและนักเทรดทั่วไปได้ลงทุนในบิทคอยน์ได้ง่ายๆ ในระยะสั้นการเทรดฟิวเจอร์น่าจะดันราคาบิทคอยน์ให้สูงขึ้นไปได้อีก ในขณะเดียวกันในระยะยาวอาจมีผลเสียต่อบิทคอยน์ได้เช่นกัน
  • Nasdaq Inc. (บริษัทที่บริหาร NASDAQ ตลาดหุ้นที่ใหญ่อันดับสองของโลก) มีแพลนที่จะเปิดบริการเทรดบิทคอยน์ฟิวเจอร์เช่นกันในปีหน้า
  • Coinbase เปิด Custody สำหรับเก็บเหรียญให้พวกสถาบันการเงินโดยเฉพาะ (ต้องฝากเหรียญมูลค่าขั้นต่ำ $10m) ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ามี demand หรือความต้องการจากสถาบันการเงินที่จะเข้ามาลงทุนในตลาด Crypto มากขึ้นในปีหน้า (ปัจจุบัน Coinbase ก็ถือเหรียญให้คนทั่วไปที่มีมูลค่ารวมถึง $9bn อยู่แล้ว ถึงมีความน่าเชื่อถือพอที่จะทำบริการแบบนี้ได้)
  • Square เปิดให้ทดสอบซื้อขาย Bitcoin ในแอปของตัวเอง แม้ว่าจะมีหลายฝั่งออกมาบอกว่า Sqaure ทำไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเพราะผลประกอบการแย่ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นการเริ่มนำ Bitcoin สู่ mainstream ที่บริษัทอื่นๆก็สามารถเอาเป็นตัวอย่างได้

ไฮไลท์เหรียญต่างๆ

กลุ่มสกุลเงิน

  • BTC ทะลุ $10,000 หรือ 330,000 บาท !!!! โดย Volume อันดับหนึ่งมาจากเกาหลี
  • BTC คลอดลูกออกมาทั้ง Gold, Diamond, Platinum (พอเถอะนะผมว่า)
  • BCH ทำจุดสูงสุดที่ $2,400 (ขึ้นมา 5 เท่าจากต้นเดือน) ตอนนี้ทรงตัวอยู่ที่ $1,500

นอกจาก BTC และ BCH แล้ว Dash เป็นอีกเหรียญที่ร้อนแรงไม่แพ้กันเลยทีเดียวในเดือนนี้ มูลค่า Dash นั้นเพิ่มจาก $260 ในต้นเดือนมาอยู่ที่ $600 ในปัจจุบัน Dash นั้นถือได้ว่าเป็นอีกเหรียญนึงที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงในด้าน mass adoption ที่ยังไม่มีเหรียญไหนทำได้ (หมายถึงเหรียญที่คนส่วนใหญ่จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในอนาคต)

ขณะเดียวกันอีกเหรียญที่น่าจับตามองในเดือนนี้และเดือนหน้าก็คือ Zcoin หรือ XZC นั้นเอง โดยที่ XZC นั้นจะเปิดตัว Masternode ในเดือนหน้า ทำให้ราคาพุ่งขึ้นมากในเดือนนี้และคาดว่าจะขึ้นต่ออีกเรื่อยๆหลังจาก Masternode ใช้งานได้จริง เราอาจจะได้เห็น XZC เป็นเหมือน Dash สำหรับพวก Private currency ในอนาคตครับ

กลุ่มแพลตฟอร์ม Smart Contract

  • ETH ได้ทำลายสถิติเดิมทะลุ all time high เก่าได้ในที่สุด (ที่ราคา $400) โดยทำจุดสูงสุดที่ประมาณ $480 คอยน์แมนเชื่อว่าหลายๆคนคงรอกันมานานมาก
  • ม้ามืดในเดือนนี้ต้องขอยกให้กับ Cardano ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง(เกือบ) 6 เท่าเลยทีเดียวในช่วงสิ้นเดือน
  • EOS public testnet จะเปิดตัววันที่ 4 ธันวาทำให้ราคาพุ่งขึ้น 4 เท่าหลังจากเงียบมานาน
  • IOTA ขึ้นถึง 5 เท่าด้วยกันเพราะเริ่มมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่เข้ามาเช่น Microsoft
  • NEO มีดราม่าจากการประกาศว่าจะประกาศข่าว(งงสิ) ทำให้คนคิดไปไกลนึกว่าข่าวใหญ่โตที่เกี่ยวกับจีน สุดท้ายออกมาเป็นการจัด developer competition ทำให้คนผิดหวังกัน แต่โดยรวมแล้ว NEO น่าจะผงาดได้อีกครั้งในปีหน้าเนื่องจากเริ่มมีโปรเจคโปรไฟล์ดีๆเช่น The KEY, NEX และอื่นๆ นำมาใช้งาน
  • LISK ที่กำลังขึ้นมาดีๆ ดันเลื่อนการรีแบรนด์ไปกุมภาปีหน้าทำให้ราคาหัวทิ่มเลยทีเดียว
  • คู่แข่งใหม่ๆในกลุ่ม Smart Contract platform เช่น Zilliqa, Mobius, Zen, Universa, Aion, ICON และอื่นๆอีกมาก

ปีหน้าน่าจะได้เห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้นว่าแพลตฟอร์มไหนจะรุ่งจะดับนะครับ

กลุ่มแอป dApps และ Protocol

เราเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มสร้าง dApps นั้นเริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อย (ส่วนมากยังสร้างบน Ethereum) แต่เรากลับไม่เห็นแอปหรือ protocol ที่คนเราเอามาใช้งานกันได้จริงๆซักเท่าไหร่ ในกลุ่มนี้คงต้องรอต่อไป คอยน์แมนเชื่อว่าปีหน้าเราจะได้เห็นแอปเหล่านี้เปิดตัวทำให้ปี 2018 จะเป็นปีของ dApps และ Protocol ก็เป็นได้ครับ

สำหรับเดือนนี้มาดูกันครับว่าเทรนด์ไปทางไหนบ้าง

  • เทรนด์เหรียญที่มีโมเดลธุรกิจ การดำเนินงานที่ชัดเจน มีไฟเขียวจากรัฐ และมีทีมที่แข็งแกร่งเช่นโปรเจคอย่าง Power Ledger กำลังมาแรง (ทำจุดสูงสุดที่ 10เท่าได้) ต่อไปจับตาเหรียญที่โปรไฟล์แบบนี้ให้ดีๆครับ
  • เทรนด์ Internet of Things (IoT) กำลังมาแรงเช่นกันโดยเฉพาะกลุ่มเหรียญที่เกี่ยวข้องกับ Logistic & Supply chain

เทรนด์ ICO

ตามที่คาดไว้ ตอนนี้ ICO ส่วนมากที่ตั้ง Hard cap ไว้สูงจะได้เงินไม่ถึง Hard cap ถ้ากระแสไม่แรงจริง บาง ICO ที่ยังไม่เริ่มก็ได้ประกาศปรับ Hard cap ลงให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้น (ประมาณ $5m – $20m)

ในด้านนักลงทุน ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาคนได้กำไรจาก ICO ลดลงทำให้นักลงทุนเริ่มกลัวไม่ค่อยกล้าลง ICO กันเท่าไหร่ (จริงๆเราควรกล้าตอนที่คนอื่นกลัวนะครับ) เราจะเห็นว่านักลงทุนที่กล้านั้นจะหันมาลง ICO ที่

  • Hard cap สูงแต่ได้เงินลงทุนต่ำกว่าที่คาด แล้วมีข้อตกลงที่จะเผาเหรียญที่เหลือทำให้ supply ลดลง พูดง่ายๆคือทีมงานไม่เก็บไปขายเอง
  • Hard cap ต่ำอยู่แล้วแล้วได้เงินน้อยเข้าไปใหญ่ ไม่ถึง $5m ทั้งๆที่โปรเจคนั้นดีมีอนาคต

ในเดือนข้างหน้าหรือปีหน้านั้นเราน่าจะได้เห็น ICO คุณภาพมากขึ้นกว่านี้อีก เพราะคนเริ่มที่จะคัดเลือก ICO กันอย่างจริงจังกว่าปัจจุบัน เนื่องจากจำนวน ICO ที่ล้นตลาดและ SCAM ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้

*เราจะเห็นว่า Influencer (เช่น Ian Balina, Suppoman เป็นต้น) เริ่มมีอิทธิพลในตลาด ICO มากขึ้นเพราะมันความเสี่ยงน้อยลงถ้าลงตามคนพวกนี้

ปิดท้าย

1 เดือนในตลาดนี้ยังกับ 1 ปีในตลาดอื่นเลยใช่ไหมครับ เรื่องเยอะเหลือเกิน อย่างไรก็ตามเดือนนี้ถือได้ว่าเป็นตลาดกระทิงที่หลายๆคนรอมานาน

ยังไงก็ระวังตอนตลาดลงด้วยนะครับ ส่วนมากจะเกิดจากเรื่องร้ายๆที่ใหญ่พอที่จะทำให้คน panic แล้วเกิดการเทขายกัน (ตลาดจะเข้าสู่ช่วง correction โดยมีเหตุการณ์พวกนี้เป็นเหมือนข้ออ้างซะส่วนใหญ่) เรื่องที่ควรระวังและจับตามองคือ USDT ที่มีปัญหาค้างคากันมานานแล้ว ถ้าเกิดเรื่องจริง ผลกระทบนั้นจะใหญ่พอที่จะดึงตลาดลงมาเลยทีเดียว ไว้มีโอกาสจะมาเขียนรายละเอียดเรื่องนี้นะครับ

สำหรับเดือนหน้าเราต้องคอยดูว่า BTC จะยืนเหนือ $10,000 ได้ไหม ถ้าได้เราคงได้เห็นนักลงทุนหน้าใหม่และสถาบันการเงินเริ่มมั่นใจกล้าเข้ามาลงตลาดนี้มากขึ้นและดันราคาขึ้นไปอีก

สำหรับนักลงทุน Alt นั้นต้องระวังให้ดี ถ้า BTC futures ที่ CME จะเปิดในเดือนหน้ามีผลให้ราคา BTC พุ่งขึ้นมากจนคนหันไปถือ BTC กันก่อน Alt ก็อาจจะแย่ได้ครับ ยังไงก็ลงทุนกันอย่างระมัดระวังนะครับ

 

ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางเพจคอยน์แมนครับ

https://www.facebook.com/coinmanth/