มุมมองตลาดและเทคโนโลยี

7-11 และธนาคาร กับการเงินที่ยังต้องพึ่งพาตัวกลาง

จากข่าวที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะอนุมัติ banking agent ทำให้ 7-11 และร้านสะดวกซื้ออื่นๆ สามารถดำเนินธุรกรรมทางการเงินแทนธนาคารได้  เราจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ในทางปฏิบัติแล้วมันส่งผลดีต่อประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เสมือนกับที่ทำกับธนาคาร 24 ชั่วโมง ยิ่งในต่างจังหวัดที่ธนาคารมีสาขาไม่ทั่วถึงแล้ว การมาของ 7-11 banking นับว่าช่วยอำนวยความสะดวกสบายต่อประชาชนได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ฝั่งธนาคารก็สามารถลดค่าใช้จ่ายผ่านการปิดสาขาที่ลูกค้าน้อยไปได้เยอะ การเซ็นอนุมัติของธนาคารแห่งประเทศไทยครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นการ win-win ของทั้งสองฝ่ายในฝั่งของประชาชน และธนาคาร นี่จึงดูเหมือนเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญอีกก้าวของธุรกรรมการเงินไทย แต่มันจะไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆหรอ?

ลองมาดูมุมมองของคอยน์แมนกับอีกหนทางนึงของการพัฒนาธุรกรรมทางการเงินกันครับ

การทำธุรกรรมในปัจจุบัน

เวลาเราต้องการทำธุรกรรมการเงิน เราต้องขออนุญาติ (permission) จากธนาคารทุกครั้ง (ในที่นี้พูดถึงธนาคารพาณิชย์นะครับ) แม้ว่าเงินจะเป็นของเราก็ตาม

นั้นเป็นเพราะว่าเราฝากเงินไว้กับธนาคาร เราจึงต้องขอให้เค้า process ให้ หรือพูดง่ายๆคือ เราทำธุรกรรมทางการเงินด้วยตัวเองไม่ได้นั้นแหละครับ

คำว่าขออนุญาติในที่นี้นั้นรวมไปถึง

  • การล็อกอินทำธุรกรรมผ่านแอปธนาคาร
  • ทำที่เคาท์เตอร์ธนาคาร
  • หรือแม้แต่ล่าสุดที่มันจะให้เราไปทำที่ 7-11

ลองนั่งคิดดูครับ ธุรกรรมทุกอย่างเราต้องขอขออนุญาติ access ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น

  • เช็คยอดเงินในบัญชี
  • โอนเงินในประเทศ
  • โอนเงินต่างประเทศ
  • ฝาก – ถอนเงิน
  • จ่ายเงินพนักงาน – รับเงินเดือน
  • กดเงิน ATM

โดยที่ทางธนาคารจะเป็นคนควบคุมว่า ธุรกรรมไหนเราทำที่ไหนได้ อันไหนเรามีลิมิตยังไง

แปลกไหมละครับ เงินก็เงินเรา แต่เราไม่มีอิสระเหมือนที่คิด

เหตุก็เพราะว่าธนาคารนั้นเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้อย่างสากล ธนาคารจึงสามารถทำธุรกรรมระหว่างธนาคารกันเอง หรือระหว่างประเทศได้ แต่ละฝ่ายก็สามารถเชื่อใจได้ว่าธนาคารจะไม่โกงเรา ธนาคารมีเงินจ่ายจริง (ไม่ใช่เงินปลอมด้วย)

หรืออีกเหตุผลก็คือ  ถ้าเราเก็บเงินที่ตัวเองไว้เยอะๆเช่นไว้ในตู้เซฟ เราจะทำธุรกรรมการเงินยังไง โอนหากันออนไลน์ก็ไม่ได้ ถือไปมาก็ไม่สะดวกใช่ไหมละครับ

ผลก็คือพวกเราก็เลยเคยชินกับไอเดียที่ว่า บัญชีธนาคารเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องมี หรือ”ธุรกรรมการเงิน = ธนาคาร” 

ทำไมเราถึงไว้ใจ 7-11 มาทำธุรกรรมให้เราได้หละ?

เพราะธนาคารบอกว่าให้เชื่อใจได้ไงหละ!

แต่คิดดูนะครับ ถ้าเราลองพูดเมื่อซัก 10 ปีที่แล้วว่า 7-11 จะมาทำหน้าที่ของธนาคาร เราฝาก-ถอนเงินที่นั้นได้ คนคงขำกันแล้วบอกว่า ใครจะไปเชื่อถือ 7-11 ให้จัดการส่งต่อเงินพวกเราแบบนั้น

มาวันนี้ เราคงไม่แปลกใจกันเลย เพราะถ้าธนาคารบอกว่า 7-11 ทำให้ได้ มันก็ต้องทำให้ได้ เพราะในสายตาของทุกคนนั้น ธนาคาร“น่าเชื่อถือ” ทำให้ 7-11 ที่ธนาคารบอกว่าทำธุรกรรมผ่านได้ นั้นน่าเชื่อถือไปด้วย

จริงๆแล้วก็ไม่ต่างกับสมัยก่อน ที่ใครจะไปคิดว่าคนเราจะกล้ากำเงินสด ไปฝากบริษัทๆนึง (ธนาคาร) โดยที่เราจะทำอะไรก็ต้องผ่านเค้าหมด ไว้ใจเค้าว่าเค้ารักษาเงินเราได้ จัดการธุรกรรมต่างๆให้เราได้

เพราะฉะนั้น ในเคสของ 7-11 แม้ว่าช่วงแรกคนอาจจะยังไม่กล้าฝากโอนเงินจำนวนเยอะที่นั้น แต่ต่อไปคนก็จะเคยชินและกล้าเอง เหมือนที่เราเคยเริ่มเชื่อถือธนาคารนั้นเอง

คำถามที่เราควรเริ่มถาม

จริงอยู่ครับ การใช้ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 มาช่วย มันทำให้คนทั่วไปเข้าถึงบริการของธนาคารได้มากขึ้น

แต่!! หลายคนอาจจะเริ่มตั้งคำถามกันนะครับ (ผมละคนนึง)

  • ทำไมเราต้องทำธุรกรรมการเงินผ่านกลุ่มนี้ด้วย ไม่ว่าจะผ่านเคาท์เตอร์ธนาคารเอย ผ่าน 7-11 เอย 
  • ทำไมต้องให้เข้าถึงบริการของธนาคารมากขึ้นหละ? ถ้าเป้าหมายคือต้องการให้คนทั่วไปสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ มันน่าจะมีทางเลือกอื่นนะ

ปัญหาคือมันไม่ผ่านธนาคารไม่ได้นะสิครับ ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้น พวกเราน่าจะเข้าใจแล้วว่าเรายังต้องมีคนตรวจสอบเช็คเงินตรงนั้น เรายังต้องมีกลุ่มธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือต่อองค์กรต่างๆทำธุรกรรมให้เรา หรือแม้แต่ในเรื่องความสะดวกสบายในการโอนเงิน

ทำให้ไม่ว่าธนาคารจะให้เราทำธุรกรรมผ่านทางไหนเราก็ต้องทำ เพราะเราต้องพึ่งเขา

สิทธิในการทำธุรกรรมการเงินนั้นเราถูกธนาคารยึดไปนานแล้วครับ

Banking on Blockchain – Cryptocurrency คือทางออก!?

ทุกคนควรจะมีสิทธิในการทำธุรกรรมทางการเงินได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร 

Bill Gates กล่าวไว้ “การทำธุรกรรมทางการเงินนั้นจำเป็น แต่ธนาคารนั้นไม่จำเป็น”

มาตอนนี้ เรามีทางออกกันแล้ว ทางออกที่ทำให้เด็กที่พึ่งเกิดมา ณ วันนี้ ในอนาคตข้างหน้าเค้าอาจไม่ต้องไปเปิดบัญชีธนาคาร

  • แค่โหลดแอป wallet มา มันจะทำให้เค้าสามารถมีฟังค์ชั่นการเงินเทียบเท่ากับธนาคาร
  • สามารถถือเงินไว้กับตัวเองได้จริงๆ รับเงินโอนเงินได้ทั่วโลกไร้พรมแดนโดยที่ไม่ต้องผ่านใคร ทำได้ 24/7 ไม่มีปิด (ไม่ต้องไป 7-11 ด้วย ฮ่าๆ)

หรือพูดง่ายๆคือ เค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ต้องผ่านใคร ขออนุญาติใครอีกต่อไป

**ในที่นี้เรานึกภาพ crypto-fiat ที่เป็นเงินบาทในรูปแบบ crypto ก็ได้ครับ ยังไม่ต้องคิดถึง Bitcoin ก็ได้ ซึ่งถ้าพวกเราสามารถถือเงินบาทในแอป wallet ของเราเองได้ จะเงินกี่ล้านก็เก็บได้ โอนได้ ไม่ต้องผ่านธนาคารหรือใครที่ไหนอีกละครับ

Blockchain Technology และ Cryptocurrency นั้นคือทางออก ที่จะทำให้เราหลุดจาก“อำนาจผูกขาดทางการเงิน”จากกลุ่มใดกลุ่มนึงครับ

มันเป็น Innovation ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการเงิน ไม่ต่างกับที่ Internet เข้ามาเปลี่ยนโลกของการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเลยทีเดียว

คอยน์แมนกำลังเขียนซีรีย์อธิบายถึงพัฒนาการของ “เงิน” ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน และจะพูดถึงแก่นจริงๆว่าทำไม Cryptocurrency นั้นถึง”ควร”มีมูลค่ามหาศาลและมันจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของเราได้อย่างไร ซึ่งบอกไว้ได้เลยครับว่ามันไม่ใช่เพราะ โอนถูก โอนเร็ว อย่างที่คนส่วนมากเข้าใจ อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ 🙂

 

ติดตามบทความใหม่ๆได้ทางเพจคอยน์แมนครับ

https://www.facebook.com/coinmanth/